top of page
BG70637893.png

ปี 2566 เป็นปีที่บริษัทครบรอบ 40 ปี นับจากวันที่บริษัทได้รับการจัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2526 และปี 2566 นี้ ถือเป็นปีที่บริษัทเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของธุรกิจการบินโลกจากวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยปริมาณน้ำมันอากาศยานที่บริษัทให้บริการ ฟื้นตัวกลับมาถึง 4,300 ล้านลิตร หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 75 ของปริมาณน้ำมันที่บริษัทให้บริการในปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากการให้บริการน้ำมันอากาศยานที่ 1,793.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึงร้อยละ 48

 

สำหรับธุรกิจเสริมอื่น ๆ (non-core business) บริษัทยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการขยายธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท เพื่อสร้างรากฐานของโครงสร้างรายได้ที่สมดุลให้บริษัทสามารถต้านทาน (resilience) และรับมือกับปัจจัยท้าทายต่าง ๆ ในอนาคต โดยในปีที่ผ่านมา บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 71 สามารถขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อขนส่งน้ำมันของบริษัท ได้ถึง 842.5 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 105.3 จากการขยายฐานลูกค้าและการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญ นอกจากนี้  บริษัท บาฟส์ คลีน เอนเนอร์ยี่ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100  ได้ลงทุนจัดตั้งบริษัทในประเทศสิงคโปร์ และประเทศมองโกเลีย เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายฐานการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชียต่อไป รวมถึงบริษัท บาฟส์ อินเทค จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 90 ได้ร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศสเปน นำรถเติมน้ำมันอากาศยานที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด ไปเปิดตัวครั้งแรกในงาน Inter Airport ที่เมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้บริษัทมียอดสั่งซื้อสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างไรก็ดี ปี 2566 เป็นอีกหนึ่งปีที่โลกต้องเผชิญกับความผันผวนอย่างมาก โดยสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้เข้าสู่ปีที่สอง ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังอยู่ในภาวะเปราะบาง โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีนซึ่งมีการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ กอปรกับสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง ที่เริ่มรุนแรงมากขึ้นจากการบุกโจมตีอิสราเอลโดยกองกำลังติดอาวุธของฮามาส นอกจากนี้ ปี 2567 เป็นปีที่มีการเลือกตั้งมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศมหาอำนาจ และประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อย่างสหรัฐอเมริกา และยุโรป หลายฝ่ายจึงคาดการณ์ว่าปัจจัยท้าทายและความผันผวนต่าง ๆ ในโลก อาจจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้

 

ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา บริษัทให้บริการน้ำมันอากาศยานด้วยความทุ่มเท ตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 365 วันต่อปี โดยไม่มีวันหยุด ผ่านวิกฤติต่าง ๆ มามากมาย ดังนั้น สำหรับบริษัท ความผันผวนที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุม ไม่ต่างจากดินฟ้าอากาศที่สามารถแปรเปลี่ยนได้ทุกวัน ดังนั้น หน้าที่ของบริษัท คือ ยังคงสานต่อภารกิจของการเติมเต็มพลังงานที่สร้างสรรค์ให้แก่โลก อย่างไม่มีวันหยุด ยึดมั่นในคุณภาพการให้บริการด้วยความปลอดภัยและการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ ควบคู่กับการบริหารกิจการอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับมิติด้านสิ่งแวดล้อม การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG)

 

ความเร่งด่วนในการบรรเทาวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นหนึ่งในความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อทั่วทั้งโลก ทำให้ในปี 2566 กลุ่มบริษัทได้ประกาศนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมตั้งเป้าหมายและกลยุทธ์ในการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2593 เช่น การใช้รถเติมน้ำมันอากาศยานที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า การใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน ตลอดจนการศึกษาและร่วมผลักดันการใช้น้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel: SAF) ในประเทศไทย

 

สำหรับภารกิจในการเติมเต็มและยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนในสังคม กลุ่มบริษัทยังคงดำเนินโครงการร่วมกับชุมชนในพื้นที่ที่บริษัทไปดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท แอร์บัส ในการจัดการฝึกอบรมแก่บุคลากรของบริษัทให้สามารถทำหน้าที่ผู้ฝึกสอน (certified trainer) ด้านการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานในสูงสุดถึงระดับ 3 ตามมาตรฐานของสมาคมขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) จากเดิมที่เคยให้บริการในระดับ 1 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ และยังมีส่วนช่วยลดต้นทุนกับเวลาให้แก่สายการบินที่รับบริการจากบริษัท กลุ่มบริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้เพื่อพัฒนาองค์กรและบุคลากรให้ก้าวนำกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก การจัดทำแผนสืบทอดตำแหน่งที่สำคัญ (Succession Plan) การปรับเปลี่ยนองค์กรให้มีประสิทธิภาพ ทันสมัย คล่องตัว และมีต้นทุนที่ลดลง โดยการนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้ามาใช้ในกระบวนการทำงาน การบริหารจัดการความเสี่ยงและการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการสร้างความสมดุลในโครงสร้างรายได้จากธุรกิจหลักและธุรกิจเสริม

 

ทั้งหมดนี้ กลุ่มบริษัทขับเคลื่อนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ให้กลุ่มบริษัทพร้อมรับมือและก้าวข้ามวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อส่งมอบคุณค่าที่ดีให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน และในนามฝ่ายบริหาร ผมขอขอบคุณพนักงาน ผู้ถือหุ้น พันธมิตรและคู่ค้าทางธุรกิจทุกท่านที่เชื่อมั่น ไว้ใจ ในบริษัทตลอด 40 ปีที่ผ่านมา และต่อจากนี้ไป กลุ่มบริษัทจะมุ่งมั่นสร้างคุณค่าที่ดีให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน จะมุ่งมั่นนำพากลุ่มบริษัทสู่องค์กรที่มีบทบาทในระดับภูมิภาคเพื่อสร้างสรรค์คุณค่าที่ดีให้แก่สังคมและโลกอย่างยั่งยืนต่อไป

bottom of page